Sitemap

Threat Intelligence คืออะไรและทำไมถึงสำคัญในโลกไซเบอร์

2 min readJun 4, 2025

สวัสดีครับ วันนี้มาคุยกันเรื่อง Threat Intelligence กันดีกว่า หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้เวลามีข่าวแฮกเกอร์หรือการโจมตีผ่านโลกไซเบอร์ เช่นบน Dark Web หรือข่าวข้อมูลรั่วไหล วันนี้เราจะพาไปเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว Threat Intelligence คืออะไร และทำไมถึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันภัยไซเบอร์ในยุคนี้ครับ

เวลาพูดถึง Threat Intelligence หรือข่าวกรองภัยคุกคาม หลายคนอาจนึกถึงข้อมูลยาก ๆ หรือเรื่องไกลตัว จริง ๆ แล้วมันคือกระบวนการที่ช่วยให้องค์กร “รู้ก่อน” ว่ากำลังจะโดนอะไร เพื่อจะได้เตรียมรับมือหรือป้องกันได้ทัน พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นการสืบข่าวไซเบอร์แบบมีเป้าหมาย ใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา จากใคร และเขาจะมาแบบไหน

สมมติว่าคุณเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีในองค์กร วันหนึ่งคุณพบว่าระบบมีพฤติกรรมผิดปกติ ถ้าไม่มีข้อมูลอะไรมาช่วยเลย คุณก็อาจจะต้องเดาเอาว่ากำลังโดนอะไร แต่ถ้าคุณมี Threat Intelligence ที่ดี เช่น ข้อมูลว่าช่วงนี้มีแคมเปญฟิชชิ่งจากกลุ่มแฮกเกอร์ A กำลังระบาดในภูมิภาคของคุณ คุณจะเริ่มสืบได้เร็วขึ้น และตั้งรับได้ทันก่อนที่จะสายเกินไป

จากเดิมที่องค์กรเน้นแค่ “กันไว้ก่อน” (เช่น ตั้ง firewall หรือใช้ antivirus ทั่วไป) การมี Threat Intelligence เข้ามาเสริม จะช่วยให้องค์กรรู้ว่า “ควรระวังอะไรเป็นพิเศษตอนนี้” เพราะภัยไซเบอร์เปลี่ยนเร็วและมักมาแบบเฉพาะเจาะจง หากเรารู้ก่อน ก็จะใช้ทรัพยากรได้ตรงจุดมากกว่า และลดความเสียหายได้เยอะเลย

ประเภทของ Threat Intelligence

Threat Intelligence แบ่งออกได้เป็น 4 ระดับหลัก ซึ่งแต่ละระดับก็มีหน้าที่เฉพาะ โดยเหมาะกับคนในแต่ละระดับขององค์กร เช่น:

  • 📊 Strategic Intelligence — เป็นข้อมูลในระดับภาพรวมหรือแนวโน้ม เช่น มีความขัดแย้งระหว่างประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดการโจมตีไซเบอร์ เป้าหมายคือผู้บริหารที่ใช้ข้อมูลนี้วางแผนกลยุทธ์และงบประมาณด้านความปลอดภัย
  • 🛡️ Tactical Intelligence — เน้นข้อมูลเชิงเทคนิค เช่น แฮกเกอร์ใช้วิธีอะไรโจมตี ใช้เครื่องมืออะไร มาจากแหล่งไหน ข้อมูลพวกนี้ทีม SOC หรือ Blue Team จะเอาไปใช้ทำ detection rule ได้เลย
  • 🔍 Operational Intelligence — เป็นข้อมูลที่มีรายละเอียดเฉพาะเหตุการณ์ เช่น มีแคมเปญฟิชชิ่งที่กำลัง active อยู่ตอนนี้ ทีม IR จะได้วางแผนตอบสนองได้เร็ว
  • 🧩 Technical Intelligence — รายละเอียดเชิงลึก เช่น IP, hash, URL หรือ domain ที่มีพฤติกรรมอันตราย ซึ่งสามารถนำไปใส่ในระบบตรวจจับภัยได้เลย

การแยกประเภทแบบนี้ช่วยให้แต่ละทีมในองค์กรเข้าใจว่าต้องใช้ข้อมูลแบบไหน และจะเอาไปใช้ยังไงให้ได้ผลสูงสุด

บทบาทของ Threat Intelligence ใน Security Operations

Threat Intelligence ไม่ใช่แค่ข้อมูลที่เอามาเก็บไว้ แต่เป็นส่วนสำคัญของการทำงานด้านความปลอดภัยทั้งระบบ เช่น:

  • ⚡ ช่วยลดเวลาในการตรวจจับและตอบสนอง เพราะมีข้อมูลให้ตรวจสอบเชิงลึก
  • 🧠 ช่วยให้การวิเคราะห์เหตุการณ์มีบริบท ไม่ใช่แค่เห็น log แต่เข้าใจเบื้องหลังด้วย
  • 🔎 วางแผน Threat Hunting ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะรู้ว่าต้องหาอะไร
  • 🎯 ทำให้การวิเคราะห์กลุ่มผู้โจมตีชัดเจนขึ้น เช่น กลุ่มที่มีพฤติกรรมเฉพาะทาง

การมีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ทีมสามารถจัดลำดับความเสี่ยงได้ถูก ว่าจะจัดการอะไรก่อนหลัง ไม่ต้องเสียเวลาทำทุกอย่างแบบกระจาย

ตัวอย่างการใช้ Threat Intelligence ในสถานการณ์จริง

ลองนึกภาพว่าองค์กรของคุณเพิ่งได้รับรายงานจาก Threat Intelligence Feed ว่ามีฐานข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานของเว็บไซต์ชื่อดังแห่งหนึ่งหลุดออกมาบนฟอรัมใน Dark Web ซึ่งภายในมีอีเมลและรหัสผ่านของผู้ใช้งานจำนวนมาก และพบว่ามีโดเมนอีเมลของบริษัทคุณรวมอยู่ด้วย

ทีม Security ของคุณจึงรีบดาวน์โหลดตัวอย่างไฟล์ข้อมูลที่รั่วไหล พบว่ามีบางบัญชีที่ใช้รหัสผ่านเดียวกับที่หลุดมา และยังคงใช้งานอยู่ในระบบขององค์กร

จากนั้นทีมจึงรีบดำเนินการรีเซ็ตรหัสผ่านของบัญชีเหล่านั้นทันที พร้อมแจ้งเตือนพนักงานที่ได้รับผลกระทบให้เปลี่ยนรหัสผ่านทุกระบบที่เกี่ยวข้อง และเริ่มการตรวจสอบ log การใช้งานย้อนหลังเพื่อตรวจหาความผิดปกติ เช่น มีการล็อกอินจากประเทศที่ไม่เคยใช้มาก่อน หรือมีการดาวน์โหลดข้อมูลปริมาณมาก

ในกรณีนี้ Threat Intelligence มีบทบาทสำคัญในการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้ทีมสามารถลงมือแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่แฮกเกอร์จะนำข้อมูลรั่วไหลไปใช้เพื่อเข้าถึงระบบองค์กร ถือเป็นตัวอย่างของการใช้ TI เพื่อรับมือกับปัญหาแบบเชิงรุก ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่อาจลุกลามเป็นวิกฤติ

เครื่องมือที่ใช้ทำ Threat Intelligence

ถึงแม้หลายองค์กรอาจไม่มีงบมากมาย ก็สามารถเริ่มต้นทำ Threat Intelligence ได้ โดยใช้เครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่มีคุณภาพสูง เช่น แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า การติดตั้งและดูแลเครื่องมือเหล่านี้อาจต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคพอสมควร เช่น การตั้งค่าระบบฐานข้อมูล การปรับแต่งให้ทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่น หรือการดูแลให้ระบบทำงานเสถียรในระยะยาว นอกจากนี้ บางเครื่องมือยังมี dependency ที่ต้องติดตั้งแยก เช่น Elasticsearch หรือ RabbitMQ ซึ่งอาจซับซ้อนสำหรับทีมเล็กหรือองค์กรที่ไม่มีทีม IT โดยเฉพาะ

  • MISP (Malware Information Sharing Platform) — เอาไว้แชร์ข้อมูลภัย เช่น IP, domain หรือ hash ของมัลแวร์ ร่วมกับทีมอื่นหรือหน่วยงานภายนอกได้
  • OpenCTI — แสดงข้อมูลภัยในรูปแบบกราฟ ทำให้เห็นความเชื่อมโยงของกลุ่มแฮกเกอร์กับเครื่องมือหรือวิธีที่ใช้
  • Sigma — เป็นรูปแบบ rule สำหรับเขียนเงื่อนไขตรวจจับภัย และนำไปแปลงเป็นรูปแบบที่ระบบ SIEM ใช้ได้ เช่น ELK หรือ Splunk

นอกจากนี้ยังมีแหล่ง Threat Feed ที่อัปเดตภัยแบบ real-time ฟรีด้วย เช่น:

  • AlienVault OTX — ชุมชนที่แชร์ข้อมูลภัยกันทั่วโลก ทุกคนช่วยกันอัปเดต
  • Abuse.ch — รวบรวม IP และโดเมนของมัลแวร์ยอดนิยม เช่น Emotet, QakBot
  • ThaiCERT — หน่วยงานด้านความปลอดภัยของไทย คอยเตือนภัยไซเบอร์ที่เกิดในประเทศ

เมื่อใช้งานร่วมกัน เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยให้องค์กรตั้งระบบ TI ที่ใช้งานได้จริงโดยไม่ต้องจ่ายแพง

สำหรับองค์กรที่มีทรัพยากรจำกัดหรือไม่สะดวกติดตั้งระบบซับซ้อนเอง การเลือกใช้ Threat Intelligence Platform (TIP) แบบสำเร็จรูปก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยลดภาระด้านการติดตั้ง การดูแลระบบ และสามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีผ่านบริการแบบ SaaS

หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ทาง Datafarm นำเสนอ คือ “Personar — Data Leak Monitoring Service” ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรตรวจสอบและเฝ้าระวังข้อมูลที่รั่วไหลจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น Dark Web, Social Media, Public Database เป็นต้น โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับองค์กร เช่น บัญชีอีเมลบริษัท รหัสผ่าน เลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลลูกค้า

แพลตฟอร์มนี้จะช่วยแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบข้อมูลขององค์กรหลุดไปยังแหล่งที่ไม่ควรอยู่ ซึ่งช่วยให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหาย และรักษาความเชื่อมั่นจากลูกค้าหรือผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Threat Intelligence ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่มันคือเครื่องมือที่ทำให้องค์กร “รู้ก่อน ป้องกันได้ก่อน” ในยุคที่ภัยคุกคามเปลี่ยนเร็วและซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของแนวโน้มใหญ่ หรือข้อมูลทางเทคนิคที่เอาไปใช้ได้ทันที การมีข้อมูลเหล่านี้ไว้ในมือ จะช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยไม่ต้องไล่ตามหลังภัยตลอดเวลา แต่พร้อมรับมือและสู้กลับได้อย่างมั่นใจ

--

--

No responses yet