GWAPT 2024 Review

Datafarm
4 min readApr 10, 2024

--

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปสอบ GIAC Web Application Penetration Tester Certificate หรือ GWAPT นั่นเอง วันนี้ผมเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวล่วงหน้า เผื่อมีใครกำลังมีแพลนที่จะไปสอบเจ้าเซอร์ตัวนี้อยู่ครับ

https://www.credly.com/org/global-information-assurance-certification-giac/badge/giac-web-application-penetration-tester-gwapt

ทำความรู้จักกับ GIAC Web Application Penetration Tester (GWAPT)

The GIAC Web Application Penetration Tester (GWAPT) certification validates a practitioner’s ability to better secure organizations through penetration testing and a thorough understanding of web application security issues. GWAPT certification holders have demonstrated knowledge of web application exploits and penetration testing methodology.

สำหรับ Certificate ตัวนี้ การสอบจะเป็นการวัดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการทดสอบ Web Application Security เป็นหลักนะครับ ซึ่งออกให้โดย Global Information Assurance Certification (GIAC) และให้การรับรองโดย SANS Institute ครับ

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคอร์สเรียนและ Certificate ที่น่าสนใจ เช่น

  • SEC504: Hacker Tools, Techniques, and Incident Handling — GIAC Certified Incident Handler (GCIH)
  • SEC560: Enterprise Penetration Testing — GIAC Penetration Tester (GPEN)
  • SEC588: Cloud Penetration Testing — GIAC Cloud Penetration Tester (GCPN)
  • SEC660: Advanced Penetration Testing, Exploit Writing, and Ethical Hacking — GIAC Exploit Researcher and Advanced Penetration Tester (GXPN)

ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีเนื้อหาและวัตถุประสงค์ที่ต่างกันออกไปครับ

(ที่ยกมาเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น สามารถเข้าไปดูรายละเอียดคอร์สอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ ที่นี่ครับ https://www.sans.org/cyber-security-courses/ )

สำหรับหัวข้อที่ผมนำมาแชร์ในครั้งนี้ มีดังนี้ครับ

  1. ค่าใช้จ่ายในการสอบ
  2. เงื่อนไขในการสอบและเกณฑ์ในการสอบผ่าน
  3. เนื้อหาที่ใช้ในการสอบ
  4. การเตรียมตัวสอบ
  5. สรุป

ค่าใช้จ่ายในการสอบ

  • Certification Attempt ⇒ ค่าสอบจะมีราคา 979 USD หรือประมาณ 36,000 บาท โดยราคานี้จะไม่มี Material (หนังสือ) ให้ จะได้แค่ Exam Attempt สำหรับการสอบ 1 ครั้ง เท่านั้นครับ (สำหรับหนังสือที่ผมใช้ในการเตรียมสอบ ก็ได้รับสปอนเซอร์มาผู้ใหญ่ใจดี AKA เพื่อน ๆ ที่ไปสอบมาก่อนหน้าแล้วนี่แหละครับ)

Optional:

  • Certification Attempt Retakes ⇒ ถ้าเราสอบไม่ผ่าน สามารถ Retakes ได้ แต่ราคาก็จะโหดนิดนึงครับ (เกือบเท่าสอบใหม่อีกครั้งเลยครับ T^T)
  • Practice Test ⇒ เราสามารถซื้อข้อสอบเสมือนจริง มาลองซ้อมทำก่อนได้ครับ ซึ่งจะมีจำนวนข้อและมีการจับเวลาใกล้เคียงกับตอนสอบจริง ซึ่งผมทำแล้วรู้สึกว่าใกล้เคียงกับข้อสอบจริง แต่คำถามอาจจะไม่เหมือนเป๊ะ ๆ แต่ยังคงใช้ Concept เดียวกันในการตอบคำถามครับ

ผมมีแนบตารางค่าใช้ไว้จ่ายด้านล่าง หรือจะเข้าไปดูรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่นี่เลยครับ https://www.giac.org/pricing/

เงื่อนไขในการสอบและเกณฑ์ในการสอบผ่าน

1. Proctored Exam

ในการสอบจะมีผู้คุมสอบ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะสอบที่ศูนย์สอบ ซึ่งศูนย์สอบก็มีอยู่หลายที่ใน กทม. เลยครับ ติด BTS ด้วย เดินทางสะดวก หรือถ้าใครไม่สะดวกเดินทางจะเลือกสอบ Online ก็ได้ แต่อันนี้จะมีขั้นตอนมากกว่านิดหน่อย เพราะต้องให้ผู้คุมสอบรีโมตมาติดตั้งโปรแกรมในเครื่องเราด้วยครับ

2. 82 Questions

ข้อสอบแบ่งเป็น แบบปรนัยหรือตัวเลือก (Multiple Choices) 75 ข้อ และแบบปฏิบัติ (Hands on) 7 ข้อ

3. Time limit of 3 hours

การทำข้อสอบ จะให้เวลาทำ 3 ชั่วโมง ซึ่งผมแนะนำให้แบ่งเวลาดี ๆ ไม่ควรทำเกินข้อละ 1 นาทีครึ่ง เพราะต้องเผื่อเวลาไว้ทำข้อสอบปฏิบัติด้วย

4. Minimum Passing Score of 71%

เกณฑ์ที่จะสอบผ่าน ต้องได้คะแนนเกิน 71% ถึงจะสอบผ่าน ซึ่งถือว่าไม่เยอะมาก กำลังพอดี ถือว่าพอมีโอกาสให้เรามั่วได้บ้าง (ฮ่าๆ)

5. Open-book exam

ในการสอบสามารถนำหนังสือ สมุดโน้ตที่ทำสรุปไว้เข้าห้องสอบได้ (แต่จะเปิดเจอไหมก็อีกเรื่องนึงนะครับ)

เนื้อหาที่ใช้ในการสอบ

สำหรับตัว material ที่ใช้ในการอ่านสอบ ผมจะอ่านจากหนังสือของ SANS เลย ซึ่งจะมีหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้ครับ

  • Interception Proxies
  • ZAP (Zed Attack Proxy)
  • Burp Suite
  • Common Vulnerabilities
  • SSL/TLS Misconfigurations
  • Username Harvesting
  • Password Spraying
  • Authorization Flaws (Direct Object Reference)
  • Command Injection
  • SQL Injection
  • Cross-Site Scripting (XSS)
  • Server-Side Request Forgery (SSRF)
  • Insecure Deserialization
  • XML External Entities (XXE)
  • Local and Remote File Inclusion (LFI / RFI)
  • Cross-Site Request Forgery (CSRF)
  • Logic Flaws
  • Information Gathering
  • Target Profiling
  • Application Discovery
  • Virtual Host Discovery
  • Vulnerability Scanning
  • Authentication and Authorization
  • Session Management Flaws
  • Automated Exploitation

การเตรียมตัวในการสอบ

หลังจากสมัครสอบ เราสามารถเลือกวัน เวลา สถานที่สอบ จากในเว็บไซต์ได้เลย ซึ่งต้องเลือกภายในระยะเวลา 4 เดือนหลังจากสมัครสอบแล้ว (สำหรับสายมูสามารถดูฤกษ์ยามก่อนเลือกวันได้นะครับ)

ส่วนวิธีในการเตรียมตัวสอบ นอกจากอ่านเนื้อหาในหนังสือ สิ่งที่ผมคิดว่าช่วยในการทำข้อสอบได้เยอะ คือ การทำ Index

การทำ Index หรือจริง ๆ ก็คือ สารบัญที่เราทำขึ้นมาเอง เพื่อเอาไว้อ้างอิงถึงเนื้อหาจากในหนังสือ เผื่อในกรณีที่เรากำลังทำข้อสอบแล้วไม่แน่ใจว่าคำตอบคืออะไร ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถเปิดหาได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของผมที่ทำไว้จะมีหน้าตาประมาณนี้ครับ

ส่วนไอเดียในการทำ Index สรุปแบบย่อ ๆ ก็คือ

  • ลิสต์หัวข้อหลัก + หัวข้อรอง ที่อยู่ในหนังสือแต่ละเล่ม (อาจจะเขียนด้วยความเข้าใจของเราเองก็ได้ ว่าเป็นหัวข้อเกี่ยวกับอะไร) จากนั้นใส่ลงไปในตารางที่เราทำไว้
  • ใส่เลขหน้า ของหัวข้อที่เราได้ลิสต์ไว้ ว่าอยู่หน้าที่เท่าไหร่ในหนังสือ เพื่อความรวดเร็วเวลารีบหาคำตอบ
  • ปริ้น Index ที่เราทำแล้วแปะไว้ที่หน้าปกของแต่ละเล่ม (จริงๆแล้วในเล่มที่ 5 ของหนังสือก็มี Index ให้ แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าหาค่อนข้างยาก)

วิธีที่ผมใช้ในการทำ Index จะมีอธิบายอย่างละเอียด อยู่ในวิดีโอ How to Pass Any SANS / GIAC Certification on Your First Try จากช่อง “The Cyber Mentor” ดูจากชื่อคลิปก็รู้แล้ว สอบผ่านชัวร์ ฮ่าๆๆๆ

ใครสนใจสามารถไปเข้าไปดูเพื่อเป็นแนวทางกันได้ที่นี่เลยครับ https://www.youtube.com/watch?v=LBGgLbiQ9lM&t=551s

ส่วนในช่วงก่อนวันสอบก็จะได้รับ Exam Appointment Confirmation E-mail ซึ่งก็จะมีรายละเอียดต่าง ๆ เช่น วัน เวลา และสถานที่สอบ และเอกสารที่ต้องใช้เพื่อแสดงกับเจ้าหน้าที่ อย่าลืมเตรียมไว้ให้พร้อม และห้ามลืมนำไปด้วย (สำคัญมาก ๆ ครับ)

วันสอบ

มาถึงวันสอบจริง ส่วนตัวผมเลือกเดินทางไปสอบที่ศูนย์สอบ ดังนั้นใครเลือกแบบผมต้องพยายามไปให้ถึงศูนย์สอบก่อนเวลา สัก 15–30 นาที และอย่าลืมนำหนังสือ สมุดโน้ตต่าง ๆ รวมถึง Index ที่เราได้ตั้งใจทำขึ้นมา จากนั้นก็ไปเริ่มทำข้อสอบกันนน…..

และอย่างที่ผมได้บอกไปตั้งแต่ช่วงแรกว่าการทำข้อสอบ จะให้เวลาทำ 3 ชั่วโมง แบ่งเป็นข้อสอบปรนัยและข้อสอบปฏิบัติ และที่สำคัญอย่าลืมแบ่งเวลาดี ๆ ตั้งสติ และรวบรวมความรู้ทั้งหมดที่ได้อ่านมา เพราะถึงเวลาทำข้อสอบจริง ๆ เราจะมีความกดดันเพิ่มขึ้นมา แต่อย่าไปหยองครับ เตรียมความพร้อมมาขนาดนี้ แถมใส่เสื้อสีมงคลมาพร้อมแล้ว ฮ่าๆ ลุยเลยครับ

หลังจากตะลุยทำข้อสอบมาอย่างหนักหน่วง หลังสอบเสร็จ จะมีให้เราทำแบบประเมินอีกนิดหน่อย จากนั้นก็จะมีการแจ้งผลคะแนนทางหน้าจอคอมพ์เลยว่าผ่านหรือไม่ผ่าน (แบบไม่ต้องรอลุ้นนาน) และหลังจากสอบผ่านก็จะมี E-mail Confirm ส่งกลับมาให้เรา (เย่~)

สรุป

ส่วนตัวผมคิดว่าเนื้อหาของเซอร์นี้ค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นการปูความรู้พื้นฐานและเทคนิคต่าง ๆ ในการทดสอบ Web Application ซึ่งทำให้เรามีไอเดีย สามารถนำไปต่อยอดกับเทคนิคอื่น ๆ ได้อีก และข้อสอบค่อนข้างตรงกับใน Material ที่อ่านมา ส่วนข้อเสียก็น่าจะเป็นเรื่องค่า Retakes ที่ค่อนข้างแพงและตัว Material ไม่ได้รวมอยู่ในค่าสอบ แต่เมื่อตั้งใจจะไปสอบแล้วก็ต้องหาข้อมูลและแหล่งความรู้จนได้ครับ

สุดท้ายนี้ หวังว่าผู้อ่านและผู้ที่จะมีแพลนไปสอบเซอร์ตัวนี้จะได้แนวทางจากบทความนี้ไปปรับใข้กันครับ แล้วไว้เจอกันใหม่บทความหน้าครับ สวัสดีครับ

--

--